1. เป็นพลังงานที่สะอาดที่ไม่มีวันหมด การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานจากธรรมชาติที่ได้มาจากดวงอาทิตย์ ซึ่งพลังงานจากดวงอาทิตย์จัดเป็นทรัพยากรธรรมประเภทใช้แล้วไม่หมดสิ้นและพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากโซลาร์เซลล์นั้น เกิดจากการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งต่างกับพลังงานอื่นๆ ที่อาจจะต้องมีการเผาไหม้ก่อน เช่น เผาน้ำมัน
เผาถ่านหินแล้วปั่นเทอร์ไบน์ด้วยไอน้ำ ซึ่งก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งมลภาวะทางเสียง
2. ผลิตไฟฟ้าได้ทั่วทุกมุมโลก ผลิตที่ไหนใช้ที่นั่นเพียงแค่มีแสงจากดวงอาทิตย์ก็สามารถผลิตไฟฟ้าใช้ได้ในทุกๆ พื้นที่ที่ต้องการ ทั้งในพื้นที่ที่มีสายไฟเดินถึง โดยใช้การเชื่อมต่อแบบระบบออนกริด (ON GRID) ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับระบบสายส่งจากการไฟฟ้า
เป็นเสมือนแหล่งจ่ายเดียวกับการไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า Synchronization แต่หากในกรณีที่สายไฟเดินไม่ถึง ก็สามารถใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบออฟกริด (OFF GRID) คือระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ที่ไม่ได้เชื่อมต่อเข้ากับระบบจำหน่ายของการไฟฟ้า ระบบนี้เหมาะกับสถานที่ที่ไม่มีไฟฟ้าหรือที่ไฟเข้าไม่ถึง
3. สร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศชาติและส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อนและแก้ปัญหาพลังงานให้กับประเทศไทย
4. แผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ช่วยบังแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบหลังคา ส่งผลให้ช่วยลดความร้อนหลังคา ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ และประหยัดค่าไฟฟ้า
5. การผลิตเพื่อใช้เอง (Self-Consumption) สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาว
6. ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ไม่มีการเคลื่อนที่ (non-moving part) จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษาระบบ