โซลาร์เซลล์ควรติดตั้งหันไปทางด้านใด
มุมและทิศในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ มีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพในการรับพลังงานแสงอาทิตย์เพราะหากติดตั้งมุมที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้สูญเสียพลังงานในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ประเทศไทยมีภูมิประเทศอยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร ทำให้ความเข้มแสงมีปริมาณที่สูงและได้รับปริมาณแสงแดดที่เข้มข้นเกือบทั้งปี จึงเหมาะแก่การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เป็นอย่างมาก แต่เนื่องจาก ประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งเหนือเส้นศูนย์สูตรขึ้นมาด้านบนดวงอาทิตย์ในประเทศไทยจะขึ้นจากทิศตะวันออก โดยอ้อมไปหาทางทิศใต้เสมอ ดังนั้นทิศที่เหมาะกับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จึงควรต้องติดตั้งแผงระนาบรับแสงให้หันไปทางด้านทิศใต้ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการในการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์
การบำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
โดยทั่วไปควรตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์หลัก ประกอบด้วย 1 การบำรุงรักษาแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panel) 1.1 ทำความสะอาดคราบสกปรกและฝุ่นที่เกาะบนแผงโซลาร์เซลล์ ด้วยการล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดคราบสกปรกออก 1.2 ตรวจสภาพแผงโซลาร์เซลล์ ว่ายังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ หากพบสิ่งผิดปกติ เช่น รอยร้าว, รอยแตก, รอยฝ้าบริเวณผิว,มีรอยรั่วของน้ำภายในผิวแผงโซลาร์เซลล์, สีของแผงเปลี่ยน เป็นต้น อาจส่งผลต่อการประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง 1.3 ตรวจสอบอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับแผงโซลาร์เซลล์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ 2. การบำรุงรักษาเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) ควรใช้ผ้าแห้งเช็คทำความสะอาด และตรวจดูอุปกรณ์ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ 3. การบำรุงรักษาระบบสายไฟและระบบเชื่อมต่อต่างๆ (Wiring and Connections) ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์ มีสภาพที่ไม่สมบูรณ์หรือชำรุดหรือไม่ เช่น รอยร้าว,รอยแตก, ความเสื่อมสภาพของฉนวน,รอยไหม้ การเกิดประกายไฟตอนสับสวิตช์ไฟ,สภาพของสายดิน เป็นต้น
หลังคาชนิดไหนบ้างที่สามารถติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปได้
หลังคาทุกประเภทสามารถติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้ แต่ก่อนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ต้องเช็คก่อนว่าหลังคาบ้านเหมาะสมหรือสามารถรองรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้หรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว ก่อนติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ บริษัทผู้ให้บริการติดตั้งจะให้ทีมวิศวกรเข้าตรวจสอบพื้นที่ในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เช่น ทิศทางของแสงแดด การถูกบังแสง รวมไปถึงโครงสร้างของหลังคาว่าสามารถรับแรงได้หรือไม่ เพื่อป้องกันหลังคาเสียหายจากการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป บริษัทผู้ให้บริการจะหลีกเลี่ยงการเจาะหลังคา การติดตั้งแผงโซลาร์มีทั้งแบบสอด แบบเจาะและแบบยึดกับน็อตเดิม ซึ่งถ้าหากเป็นหลังคากระเบื้อง C-Pacและหลังคากระเบื้องแผ่นเรียบ สามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องเจาะหลังคา แต่หากเป็นหลังคาชนิดอื่นๆ เช่น หลังคาสังกะสี หลังคาลอนคู่รวมถึงหลังคาเก่าที่มีอายุเกินกว่า 10 ปีขึ้นไป วิศวกรจะทำการประเมินที่หน้างานอีกครั้งว่าหลังคาแข็งแรงเพียงพอจะรับน้ำหนักแผงโซลาร์เซลล์ได้หรือไม่ หากไม่สามารถรองรับได้ จะต้องทำการปรับโครงสร้างหลังคาให้แข็งแรงก่อนการติดตั้ง
การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในระบบออนกริด (On-grid System) หมายความว่าอย่างไร?
ระบบออนกริด เป็นระบบที่รวมแหล่งจ่ายไฟมาจาก 2 แหล่ง แหล่งที่ 1 จากระบบสายส่งของการไฟฟ้า ซึ่งในประเทศไทยคือการไฟฟ้านครหลวง,ภูมิภาคและฝ่ายผลิตแหล่งที่ 2 จากแผงโซลาร์เซลล์ การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในระบบออนกริด มีขั้นตอนการการผลิตไฟฟ้า ดังนี้ แผงโซลาร์เซลล์จะแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (DC; direct current) หลังจากนั้นจะแปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC ; alternating current) โดยผ่านเครื่องแปลงกระแสไฟ (Grid Tie Inverter) เมื่อแปลงพลังงานไฟฟ้าจากกระแสตรงเป็นกระแสสลับแล้ว จะต่อรวมเข้ากับระบบสายส่งของการไฟฟ้าและจ่ายไฟฟ้าไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยลดค่าไฟฟ้าทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ในกรณีที่ ไฟฟ้าที่ผลิตจากระบบโซลาร์เซลล์ ไม่เพียงพอต่อการงานอุปกรณ์ควบคุมจะนำไฟฟ้าจากระบบจำหน่ายไฟของการไฟฟ้ามาใช้งานทดแทน
การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในระบบออฟกริด (Off-grid System) หมายความว่าอย่างไร?
การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในระบบออฟกริด หรือ ระบบแสตนด์อโลน (Stand Alone System) หรือระบบแยกเดี่ยวเป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ที่ไม่เชื่อมต่อเข้ากับระบบจำหน่ายของการไฟฟ้านครหลวง หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในระบบออฟกริด เหมาะกับสถานที่ไม่มีไฟฟ้าหรือที่ไฟเข้าไม่ถึง ไม่คุ้มค่าต่อการเดินสายไฟ เข้ามาใช้เพราะมีต้นทุนสูง นอกจากนี้ ระบบออฟกริดยังสามารถทำได้โดยเสรี ไม่ต้องขออนุญาตภาครัฐเพราะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าและความปลอดภัยของประชาชน หลักการของระบบออฟกริด คือ ผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์จะสามารถผลิตไฟฟ้าใช้ได้เอง ซึ่งวิธีการต่อระบบจะมีหลายรูปแบบ ประกอบด้วย นำไฟฟ้ากระแสตรงที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้ากระแสตรงได้ทันที นำไฟฟ้ากระแสตรงที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ไปแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับโดยอินเวอร์เตอร์ การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในระบบออฟกริด มีแบตเตอรี่เก็บไฟไว้ใช้ในช่วงเวลากลางคืนได้ ซึ่งระบบจะนำกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์มาชาร์จเข้าแบตเตอรี่ แล้วจึงนำไฟฟ้าที่ได้มาใช้งาน
วิธีการเลือกซื้อแผงโซลาร์เซลล์
วิธีการเลือกซื้อแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อให้ได้แผงโซลาร์เซลล์ที่มีคุณภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย มีวิธีการดังนี้ คือ 1. ราคา โดยส่วนใหญ่จะพิจารณาแผงโซลาร์เซลล์จากราคาบาทต่อวัตต์ (Baht/W) ว่าสูงหรือต่ำ ซึ่งถ้าหากแผงมีขนาดไม่ใหญ่ ราคาบาทต่อวัตต์จะสูงกว่าแผงที่มีขนาดใหญ่ เช่น ราคาบาทต่อวัตต์ของแผง 10 วัตต์ จะมีราคาสูงกว่า 250 วัตต์ 2. ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ ควรเลือกแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพที่เหมาะกับการใช้งาน แผงโซลาร์เซลล์ โดยส่วนใหญ่ผลิตจาก Crystalline Silicon หรือผลึกซิลิกอนเนื่องจาก เนื้อซิลิกอนมีความบริสุทธิ์ การจัดเรียงตัวของโมเลกุลสามารถจัดเรียงได้อย่างเป็นระเบียบ ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ผลึกซิลิกอนในโซลาร์เซลล์ แบ่งออกเป็น 2ประเภท ได้แก่ 2.1 แผงโซลาร์เซลล์ ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells) แผงโซลาร์เซลล์ชนิดนี้ทำมาจากผลึกซิลิคอนเชิงเดี่ยว (mono-Si) หรือ single crystalline (single-Si) สามารถสังเกตได้ง่ายๆ คือลักษณะของเซลล์เป็นสี่เหลี่ยมตัดมุม 4 มุม มีสีที่ค่อนข้างเข้ม ข้อดีของแผงโซลาร์เซลล์ ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะผลิตมาจากซิลิคอนเกรดคุณภาพสูง […]
ระบบโซลาร์เซลล์ มี 3 แบบ ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
ระบบของโซลาร์เซลล์ ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แบ่งได้ดังนี้ 1. On-grid System ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ แบบออนกริด —- คือระบบโซลาร์เซลล์ที่เชื่อมต่อเข้ากับการไฟฟ้า (ไม่มีแบตเตอรี่) อุปกรณ์หลักประกอบด้วย แผงโซลาร์เซลล์และอินเวอร์เตอร์ออนกริด (inverter on grid) มีหลักการทำงาน โดยแปลงไฟฟ้ากระแสตรงจากแผงโซลาร์เซลล์เป็นไฟฟ้ากระแสสลับเพื่อเชื่อมต่อเข้าระบบการไฟฟ้า และนำไปใช้งานต่อไป 2. OFF Grid System ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ แบบออฟกริด หรือ Stand Alone —- คือระบบโซลาร์เซลล์ ที่ไม่ต่อกับการไฟฟ้า ประกอบด้วย 2.1 ระบบโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์ แบบเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ (Off Solar grid connect system) ระบบออฟกริดเป็นระบบที่สามารถผลิตไฟฟ้าใช้ได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งพาการไฟฟ้า ซึ่งมีวิธีการต่อระบบที่หลากหลาย ทั้งต่อโหลดกระแสตรงกับแผงโซลาร์เซลล์ (ซึ่งผลิตไฟฟ้ากระแสตรง) โดยตรง หรือนำไฟฟ้ากระแสตรงที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ไปแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ โดยอินเวอร์เตอร์ เพื่อใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 2.2 แผงโซลาร์เซลล์ต่อพ่วงกับแบตเตอรี่และโหลดกระแสตรง ข้อดีของการต่อระบบแบบนี้คือ เมื่อไม่มีแสงอาทิตย์ ก็ยังสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จ่ายให้กับโหลดการใช้ไฟฟ้าได้ สิ่งที่ต้องระวังคือ […]
ช่วงเวลาที่…ไม่มีแสงอาทิตย์ ระบบโซลาร์เซลล์สามารถใช้งานได้หรือไม่?
ระบบโซลาร์เซลล์ สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ในช่วงเวลากลางวันแต่ในเวลากลางคืน (หรือเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์) จะไม่มีการผลิตพลังงานไฟฟ้า ดังนั้น ช่วงเวลาที่…ไม่มีแสงอาทิตย์ ระบบโซลาร์เซลล์สามารถใช้งานได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับระบบที่ติดตั้ง ประกอบด้วย 1. ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบอิสระ (Stand-alone system) ระบบโซลาร์เซลล์แบบอิสระ เป็นระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ โดยมีการประจุพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ ดังนั้น ในช่วงที่ไม่มีแสงอาทิตย์ จึงสามารถนำพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้ได้ 2. ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบต่อเชื่อมกับสายส่งการไฟฟ้า (Grid connected system) ระบบโซลาร์เซลล์แบบต่อเชื่อมกับสายส่งการไฟฟ้า เป็นระบบที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในเวลากลางวันและใช้ไฟฟ้าทันที ส่วนเวลากลางคืน (หรือเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์) จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากสายส่งการไฟฟ้า ถ้าหากต้องการนำพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์มาใช้ในเวลากลางคืนด้วย จะต้องมีการเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วย แต่ปัจจุบันยังไม่เป็นที่นิยม เนื่องจาก แบตเตอรี่มีค่าใช้จ่ายสูง
กรณีที่ ไฟฟ้าดับ ระบบการทำงานของโซลาร์เซลล์ ยังสามารถใช้งานได้หรือไม่?
ในกรณีที่ระบบการทำงานของโซลาร์เซลล์เป็นแบบที่มีการเชื่อมต่อกับระบบของการไฟฟ้าหรือออนกริด (On-Grid) ในกรณีที่ไฟฟ้าดับ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) จะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าในกรณีที่มีการซ่อมระบบ เพราะหากระบบไม่หยุดทำงาน ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากระบบโซลาร์เซลล์ อาจจะย้อนเข้าระบบสายส่งและทำให้เกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานแก้ไขระบบไฟฟ้าได้
การผลิตไฟฟ้าจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ในกรณีที่แสงแดดไม่เพียงพอ ระบบไฟจะตกหรือกระตุกหรือไม่?
ในกรณี ที่ระบบโซลาร์เซลล์มีการเชื่อมต่อกับระบบของการไฟฟ้าหรือออนกริด (On-Grid) และทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า หากไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ผลิตได้ไม่มีเพียงพอต่อการใช้งาน ระบบจะดึงไฟฟ้าจากการไฟฟ้ามาใช้ จึงไม่เกิดไฟฟ้าตกหรือกระตุกเมื่อแสงแดดไม่เพียงพอ
ทำไม? Solar Cell จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบัน ได้มีการนำพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาย และเซลล์แสงอาทิตย์เป็นหนึ่งในหลายวิธีในการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาทดแทนพลังงานในรูปแบบอื่นๆ รวมถึงเป็นการใช้พลังงานจากธรรมชาติที่คุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังต่อไปนี้ – ไม่ใช้เชื้อเพลิงใดๆ นอกจากแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานที่สะอาด ไม่ก่อปฏิกิริยาที่จะทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ไม่มีการเผาไหม้ จึงไม่ก่อให้เกิดมลภาวะด้านอากาศและน้ำ – ไม่มีการเคลื่อนไหวขณะใช้งานและไม่เกิดเสียงขณะใช้งาน จึงไม่ก่อให้เกิดมลภาวะด้านเสียง – ช่วยลดปัญหาการสะสมของก๊าซต่างๆ ในบรรยากาศ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์, ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์, ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์,ก๊าซไฮโดรคาร์บอน และก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ ฯลฯ ซึ่งเป็นผลจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงพวกน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก ทำให้โลกร้อนขึ้น เกิดฝนกรด และอากาศเป็นพิษ ฯลฯ – ไม่เกิดของเสียขณะใช้งาน จึงไม่มีการปล่อยมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อม
Solar street light ทำงานอย่างไร?
ไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar street light) ทำงานโดยในช่วงกลางวัน แผงโซลาร์เซลล์จะทำหน้าที่ในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าและเก็บไว้ในแบตเตอรี่ หลังจากนั้น ในเวลากลางคืน พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่เก็บไว้จะจ่ายไฟฟ้าให้กับหลอดไฟฟ้า ซึ่งระบบการเปิด-ปิดหลอดไฟฟ้า เป็นไปอย่างอัตโนมัติ หลอดไฟฟ้าที่นิยมใช้กับระบบไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์ คือ หลอดไฟฟ้าแบบ LED เนื่องจาก หลอด LED สามารถใช้งานกับแบตเตอรี่ได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องแปลงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ให้ไปเป็นไฟฟ้าบ้าน 220 V ทำให้ง่ายต่อการใช้งานและมีเสถียรภาพสูง